บทที่ 12 แค่บังเอิญหรือโชคชะตา (125%)

“พอไหม?”

อยู่ๆ เสียงห้าวทุ้มก็โพล่งขึ้น ทำเอาเธอเลิกคิ้วทำหน้างง

“…”

“ขนมน่ะพอไหม”

นี่เขาประชดเธอหรือเปล่า

“ถ้าไม่พอ หรือว่ากินไม่อิ่ม เอาในนี้ไปเพิ่มได้นะ”

คนเดาอารมณ์ยากว่าพลางบุ้ยปากไปยังถุงขนมที่วางอยู่บนเก้าอี้ตัวข้างๆ

“ไม่เอาค่ะ”

สาวน้อยเอ่ยตอบหน้าเชิดๆ ส่วนเขาก็ทำเพียงไหวไหล่ แล้วหันไปสนใจหน้าจอไอแพดในมือ

บูรณิมากอดอกมองไปอีกทาง แต่สักพักก็ทนไม่ไหว ตัดใจไม่ขาด ก้มลงมองขนมตาละห้อย เพราะกลิ่นหอมยั่วใจชวนน้ำลายสอของมันทำให้จิตใจเธอว้าวุ่น

“ฮืออออ…เสียดายจัง น่าจะซื้อดาร์กช็อกบราวนี่มาด้วย”

เสียงอ่อยๆ พึมพำกับตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าคนที่ทำตัวเหมือนไม่สนโลก ไม่แยแส และไม่แคร์ผู้ใด จะดันหูดีได้ยินซะงั้น เพราะหลังจากเธอเอ่ยขาดคำเสียงห้าวทุ้มก็แว่วขึ้นอีกครา

“ในถุงนี่ก็มี แบ่งไปสิ”

“ไม่เอาค่ะ ขอบคุณค่ะ”

บูรณิมาปฏิเสธไปตามมารยาท ก่อนจะก้มลงควานหามือถือในกระเป๋าผ้าสุดเก๋ เพราะเบื่อคนที่ผีเข้าผีออก เดี๋ยวหน้ายักษ์ เดี๋ยวส่งสายตาดุๆ มาให้ แต่สุดท้ายดันเอาของกินมาล่อซะงั้น

ฮึ! เอาของกินมาล่อ?

เธอไม่ใช่เด็กซะหน่อย

ถึงจะเลิฟการกินแบบเป็นชีวิตจิตใจ เธอก็ไม่ยอมรับของกินจากใครง่ายๆ หรอก โดยเฉพาะอีตาลุงหน้ายักษ์ที่มีอาการไวทองสองอารมณ์แปรปรวนประหนึ่งพายุเช่นเขา

“เด็กดื้อ…”

น้ำคำเชิงตำหนิลอยๆ และเสียงดุๆ ทำให้สาวน้อยแก้มป่องหันขวับไปขึงตาใส่เขาเร็วๆ อย่างใจกล้า ก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง จากนั้นก็ต่างฝ่ายต่างเงียบ

“หมูนุ่ม!”

เสียงเรียกทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเช็กยอดวิวและคอมเม้นท์นิยายตอนล่าสุดในมือถือช้อนดวงตากลมโตขึ้น ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ที่สนิทสนมกัน ซึ่งชอบเรียกเธอว่าหมูนุ่ม

“เฮียยยยย…ค้าาา”

ทันทีที่หนุ่มตี๋ร่างผอมสูงมาหยุดลงข้างๆ เขาก็เอ่ยถามไถ่ด้วยท่าทางเป็นกันเอง

“มารอพบพี่มะเดี่ยวเหรอ”

“ค่า”

“เก่งไม่เบานี่เรา ได้ทำโปรเจกต์ใหญ่ซะด้วย”

“ของมันแน่อยู่แล้ว บี๋ซะอย่าง”

ได้ทีคนถูกชมก็เชิดหน้าโอ่ยกใหญ่ ท่าทางชวนเอ็นดูปนมันเขี้ยวทำให้คชาหลุดหัวเราะน้อยๆ ยิ่งมองอีกฝ่ายยิ่งคันไม้คันมือเจ้าก้อนนุ่มนิ่ม อยากมีน้องสาวแบบนี้บ้าง

“ตั้งใจทำงานล่ะ แปลนิยายของจีนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะจะบอกให้” คชาเอ่ยเตือนหญิงสาวด้วยความหวังดี ก่อนจะจงใจก้มลงกระซิบกระซาบ “แถมพี่มะเดี่ยวยังเขี้ยวลากดินอีก”

เสียงหัวเราะคิกหลุดออกมาจากปากอิ่ม เมื่อได้ยินอีกฝ่ายนินทาบรรณาธิการหนุ่มใจหญิงผู้มากฝีมือ ก่อนจะขยิบตาเอ่ยเสียงใส ชนิดที่คนฟังยิ้มร่า

“รับรองจะไม่ให้เสียชื่อคนสอนภาษาจีนอย่างเฮียคะแน่นอนค่า”

“เด็กดี”

คชาว่าพลางลูบหัวน้องน้อยเบาๆ

“เฮียขา…”

เสียงหวานจ๋อย พร้อมอากัปกิริยาทำตาปริบๆ ทำให้คชาเริ่มจะรู้ทัน

“ว่าไงตัวยุ่ง จะอ้อนเอาอะไรอีกหือ”

“ขนมหนูล่ะ”

แม่คนช่างกินเริ่มไถ พร้อมแบมือ ช้อนนัยน์ตาอ้อนๆ ขึ้นมองหน้าคนที่ยืนค้ำหัวอยู่

“แล้วไอ้ที่วางเต็มโต๊ะอยู่ตรงหน้าเราเนี่ย ไม่ใช่ขนมหรือไง”

“แค่นี้จิ๊บๆ เรียกน้ำย่อย”

คนตัวนุ่มขยิบตาทำท่าน่ารักน่าเอ็นดู

“เกินไปแล้ว”

คชาหลุดขำพลางยีหัวรุ่นน้องที่ตัวเองเอ็นดูประดุจน้องสาวในไส้ เนื่องจากรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยหัดเขียนนิยาย อีกทั้งยังมาสนิทสนมกันตอนช่วงที่บูรณิมาเข้ามาเป็นหนึ่งในนักเขียนของสำนักพิมพ์ดารากาล ใจจริงเขาอยากจะดึงแก้มย้วยๆ ของอีกฝ่ายอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ เพราะนึกมันเขี้ยวจนแทบทนไม่ไหว แต่ติดตรงสายตาเข้มๆ นิ่งๆ ของคนที่นั่งกอดอกมองอยู่เงียบๆ ทำให้มือที่ตั้งใจยื่นออกไปในคราแรกหดเกร็งกลับมา

“กินเท่านี้ก็พอแล้วมั้ง”

“แต่น้องอยากได้จากเฮียนี่นา…นะนะ”

เธอทำตาปริบๆ อีกหนจนคนมองชักจะแพ้ลูกอ้อน

“ไหนว่าช่วงนี้อ้วนไง”

“เฮียอะ หยาบคาย ใครเขาให้พูดเรื่องอ้วนกับผู้หญิงกันเล่า”

ท่าทางกระเง้ากระงอดแสนงอนทำให้อีกคนยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดู

“เอ้า! ก็เราเป็นคนบอกเฮียเองไม่ใช่เหรอ ว่าตัวเองอ้วน”

คชาว่าพลางกลั้นยิ้ม

“ไม่รู้แหละ มามะ…เอาขนมมาซะดีๆ”

สาวน้อยทำแก้มพอง แบมือกระดิกนิ้ว คชาแสร้งทำเป็นถอนหายใจออกมาแรงๆ แต่ก็ยอมล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบดาร์กช็อกโกแลตที่บูรณิมาชอบนักชอบหนาออกมาส่งให้

“เอ้า…เอาไป ยายหมูนุ่มจอมไถ”

“เฮียน่าร้ากกกก…ที่ซู้ดดดดด”

สาวน้อยยิ้มจนตาหยี ขณะเอ่ยประจบเอาใจเสียงใสแจ๋ว ทำเอารุ่นพี่หนุ่มหลุดหัวเราะออกมา จากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันอีกไม่นาน คชาเป็นฝ่ายเอ่ยขอตัว โดยอ้างว่าต้องรีบไปเคลียร์งานต่อให้เสร็จ เพราะรู้สึกกดดันกับสายตาของคนที่นั่งร่วมโต๊ะกับบูรณิมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“เก่งนี่ ตัวเท่านี้อ่อยผู้ชายเป็นแล้ว”

ข้อกล่าวหาลอยๆ ทำให้สาวน้อยหันขวับไปมองคนช่างหาเรื่องตาขวาง ปากอิ่มเม้มแน่นด้วยความขุ่นเคือง เมื่อเห็นคิ้วหนาที่พาดเฉียงเหนือนัยน์ตาเย็นชาเลิกขึ้นคล้ายท้าทาย ก่อนจะตอบโต้เสียงแข็งๆ

“หนูไม่ได้ทำอย่างนั้นซะหน่อย”

“ก็เห็นๆ อยู่”

“สายตาหาเรื่อง”

บูรณิมาว่าพลางย่นจมูกอย่างไม่ชอบใจกับการถูกปรักปรำ

“หึ! เด็ก…เถียงคำไม่ตกฟาก”

“หึ! คนแก่…ชอบหาเรื่อง”

คำว่า ‘คนแก่’ ที่หลุดออกมาจากปากอิ่มทำให้เจ้าของร่างใหญ่หน้าตึง มองเธอดุๆ แต่บูรณิมากลับลอยหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และเลิกสนใจอีกฝ่ายในที่สุด

หลังจากนั้นสามวันถัดมา เธอก็ได้รับข่าวที่สุดแสนจะช็อก นีราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกับสามีและลูกสาวของหล่อน ทำเอาอดใจหายไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ชอบขี้หน้าสามีของนีราก็เถอะ แต่ก็เพิ่งเห็นกันอยู่หลัดๆ ไม่น่าเชื่อว่าความโชคร้ายจะมาเยือนพวกเขาอย่างคาดไม่ถึง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป